รีวิว Vita - A By Bright and shine by kaew

Admin

January 1,2021

มาค่ะ หลังจากที่ได้ใช้ตัวนี้มาซักพัก ถึงเวลารีวิวแล้วค่ะ

🟠Dr.Different Vita-A Cream

– ส่วนผสมหลัก คือ Retinaldehyde ซึ่งเป็นฟอร์มใน Skincare ซึ่งใกล้เคียงยา (Retinoic Acid) มากที่สุด

– Retinoic Acid > RetinAl > RetinOl

– เป็น Retinaldehyde ใน Niosome Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำพายาเข้าสู่ผิว โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความเสถียรของ Retinaldehyde รวมถึงลดความระคายเคือง

– มีส่วนผสมเสริมชั้นผิว คือ Ceramide,Chloresterol และ Fatty Acid

– มี Adenosine ช่วยลดริ้วรอย, Hyaluronate 0.5% หลายขนาด ช่วยให้ผิวฟู

– มี 3 ความเข้มข้น คือ 0.05%,0.1%, และ 0.12% (รุ่น Ph.D ขายในโรงพยาบาล)

– ทางแบรนด์ มีการทำ Stability Test ปริมาณของ Retinal เมื่อเวลาผ่านไป เพื่อให้มั่นใจว่า Retinal ยังมีประสิทธิภาพอยู่ (มีรูปประกอบด้านล่างนะคะ)

🟠มี Clinical Trial ว่า Vita-A Cream สามารถช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น แน่นขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

🟠สิ่งที่ Retinaldehyde ไม่ช่วย

– ริ้วรอยตอนขยับหน้า (ควรแก้ด้วย Botox)

– ร่องใต้ตา,ร่องแก้ม,ร่องน้ำหมาก (ควรแก้ด้วย Filler)

– หน้าหย่อนคล้อย,แก้มห้อย (ควรแก้ด้วย Thermage,Ulthera หรือ Ultraformer)

🟠ระยะเวลาเห็นผล แนะนำใช้ 6 เดือนขึ้นไป และใช้ต่อเนื่องยาวๆ สำหรับ Retinal จะใช้จนถึงอายุ 200 ปีเลยก็ได้ค่ะ (ถ้าพวกเราอยู่กันถึง 55)

🟠ลักษณะเนื้อสัมผัส จะมีสีเหลืองอ่อน สำหรับคนผิวผสมแบบแก้ว ก็เนื้อหนักนิดหน่อย ทาแล้วมัน แต่ถ้าใช้กลางคืน ถือว่าโอเคค่ะ ที่ชอบที่สุด คือ ระคายเคืองน้อยมากๆค่ะ เมื่อเทียบกับ Retinal ที่แก้วเคยใช้มา

🟠วิธีการใช้ (มีรูปประกอบจากทางแบรนด์ อยู่ด้านล่างนะคะ)

– ถ้าไม่เคยใช้ Retinal เลย ให้เริ่มที่ 0.05% ก่อน 1 เดือน แล้วค่อยไป 0.1% 

– แต่ถ้าริ้วรอยน้อย ยังอายุไม่มาก ก็ใช้ 0.05% ยาวๆได้ค่ะ 

– แต่ถ้าใครอายุเยอะ รู้สึกมีปัญหาผิว ใช้ Retinal มาบ้างแล้ว ก็เริ่มใช้ที่ 0.1% แล้วใช้ยาวๆ ได้เลยค่ะ

– ใช้แค่ตอนกลางคืน

– บีบเท่าเมล็ดถั่วเหลือง

– ใช้นิ้วแตะเนื้อครีม แต้มเป็นจุดๆ ทั่วหน้า

– ค่อยๆนวดครีมบริเวณต่างๆ ให้ทั่วใบหน้า

🟠ลำดับการใช้

– ใช้เป็นขั้นตอน Treatment Cream

– ถ้าผิวระคายเคืองง่าย ให้ใช้หลัง Moisturizer

– ถ้าผิวไม่ระคายเคือง ให้ใช้ก่อน Moisturizer

– ถ้าใครผิวมันมาก ผิวแกร่ง ผิวทน จะใช้เป็น ขั้นตอน Moisturizer ตัวสุดท้ายเลยก็ได้ค่ะ

🟠การใช้ร่วมกับ Skincare ที่ผลัดเซลล์ผิว ใช้ร่วมกันได้ แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง คอยสังเกตผิว ดูความระคายเคืองค่ะ

– AHA ผิวแกร่ง ไม่แพ้ง่าย

– PHA ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย

– BHA เป็นสิว ผิวมัน ผิวอดทน

– LHA เป็นสิว ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย

ถ้าอายุน้อยกว่า 30 ปี ไม่มีปัญหาผลัดผิว ภายใต้เงื่อนไขว่าผิวชุ่มชื่นดี ใช้ Retinal แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้พวกผลัดเซลล์ผิว (HA: Hydroxy Acid) ค่ะ

ถ้าอายุ 30 ปีขึ้นไป มีปัญหาผลัดผิว

– ทา Retinal ก่อน ประมาณ 2-3 สัปดาห์ 

– แล้วเริ่ม HA วันเว้นวัน และเริ่ม % น้อยๆก่อนค่ะ

การใช้พวกผลัดเซลล์ผิว ใช้ประมาณ 3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ หรือวันเว้นวัน ก็เพียงพอค่ะ ถ้าไม่ได้มีปัญหาผิวเยอะมาก

และ HA สามารถทาได้ทั้งเช้า หรือ เย็น  เพราะไม่ว่าจะทาช่วงไหน ก็ไวต่อแสงเหมือนกัน ดังนั้น อาจจะทา HA เช้า,Retinal เย็น ได้ค่ะ ถ้าในวันเดียวกัน

โดยส่วนตัว แก้วแนะนำว่า อาจจะลองเริ่มใช้ร่วมกับ PHA ก่อนได้ค่ะ น่าจะระคายเคืองน้อยที่สุดค่ะ 

🟠การใช้ร่วมกับ Vit C

– ถ้าระคายเคืองง่าย ใช้ Vit C เช้า แล้ว Retinal เย็นก่อน ถ้าซัก 1-2 สัปดาห์ ไม่ระคายเคือง ก็ค่อยมาใช้ Vit C ทั้งเช้า,เย็นค่ะ

– ถ้าไม่ระคายเคืองง่าย และใช้ Vit C อยู่แล้ว เช้า เย็น ก็ใช้ Retinal ช่วงเย็น เพิ่มมาได้เลยค่ะ

🟠สิ่งที่ไม่ควรใช้ร่วมกับ Dr.Different Vita-A Cream เพราะซ้ำซ้อน และระคายเคืองได้ง่าย

– Retinoic Acid เช่น Tretinoin,Adapalene (Differin,Epiduo)

– Retinal,Retinol อื่นๆ 

หลังจากแก้วใช้ Vita-A Cream 0.05% มาประมาณ 1 เดือน และเมื่อช่วงปีใหม่ ได้เพิ่ม Toner PHA เข้ามาด้วย ก็รู้สึกว่า ผิวเรียบขึ้นค่ะ แต่เรื่องริ้วรอย ความแน่นของผิว แก้วยังไม่รู้สึกนะคะ อาจจะด้วยเวลาที่ใช้ยังแค่ 1 เดือน และแก้วไม่ได้มีปัญหาริ้วรอยชัดเจน แต่แก้วจะมาอัพเดตช่วงเดือนที่ 3 และ 6 หลังใช้อีกทีนะคะ

โดยสรุปคือ ถ้าใครต้องการใช้ Skincare ในกลุ่ม Retinoids ที่เห็นผลที่สุดรองจากยา คือ Retinaldehyde ที่มีความระคายเคืองน้อย มีส่วนผสมช่วยเสริมชั้นผิว Dr.Different Vita-A Cream ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากค่ะ มีตัวแทนทางการในไทย ราคาดีเมื่อเทียบกับคุณภาพค่ะ

🟠Dr.Different Vita-A Cream (Retinal 0.05%) ขนาด 20 g ราคา 1,350 บาท

🔴Dr.Different Vita-A Cream Forte (Retinal 0.1%) ขนาด 20 g ราคา 1,450 บาท

🟣Dr.Different Vita-A Cream Ph.D (Retinal 0.12%) ขนาด 20 g สอบถามทางแบรนด์ได้เลยค่ะ

https://www.facebook.com/DrdifferentTH/

https://shopee.co.th/dr.differentthailand?smtt=0.0.9

ทางแบรนด์ มีการทำ Stability Test ปริมาณของ Retinal เมื่อเวลาผ่านไป เพื่อให้มั่นใจว่า Retinal ยังมีประสิทธิภาพอยู่

🟠วิธีการใช้

– ถ้าไม่เคยใช้ Retinal เลย ให้เริ่มที่ 0.05% ก่อน 1 เดือน แล้วค่อยไป 0.1% 

– แต่ถ้าริ้วรอยน้อย ยังอายุไม่มาก ก็ใช้ 0.05% ยาวๆได้ค่ะ 

– แต่ถ้าใครอายุเยอะ รู้สึกมีปัญหาผิว ใช้ Retinal มาบ้างแล้ว ก็เริ่มใช้ที่ 0.1% แล้วใช้ยาวๆ ได้เลยค่ะ

– ใช้แค่ตอนกลางคืน

– บีบเท่าเมล็ดถั่วเหลือง

– ใช้นิ้วแตะเนื้อครีม แต้มเป็นจุดๆ ทั่วหน้า

– ค่อยๆนวดครีมบริเวณต่างๆ ให้ทั่วใบหน้า