รีวิว Vitalift - A By Game Rak MadamGrean

January 1,2021

มาสรุปผลการใช้ที่ 2 เดือนของ Forte หมอต่าง Dr.Different (หมอต่าง ยืมน้องหมามาใช้)  มาดามมาสรุปสั้นๆ  

รุ่น Forte คือมี 0.1% Retinaldehyde ใน Niosome นะ ส่วนผสมอื่นเหมือนๆรุ่นธรรมดา คือมี Adenosine + Cholesterol/Fatty acid/Ceramide + Safflower oil   

ค่าต่างๆที่เคยไม่ดีในเดือนแรกดีขึ้น ทั้งเรื่องผิวแดง(ระคายเคือง) และ การเสียน้ำใต้ผิวเดือนที่ 2 ใช้นานขึ้นผิวเริ่มปรับตัวและเสริมผิวให้แข็งแรงดีมากขึ้น  (มาดามอธิบายเพิ่มเติมในแต่ละรูปกดดูที่รูปเอานะ)

ความชุ่มชื้น และ ความยืดหยุ่นผิวอยู่ในระดับตามคาด 

สรุปที่ 2 เดือน เรื่อง antiaging + texture ทำได้ตามเป้าค่อนข้างไปทางดีด้วยซ้ำเมื่อวัดเทียบกับตัวอื่นๆ  ผิวชุ่มชื้นขึ้นและเกราะชั้นผิวก็ดูดีขึ้นในสูตรนี้ด้วย

ฝากเอาไว้สำหรับคนจะใช้ Retinoids

สิ่งที่มาดามจะอยากจะบอก การใช้ Retinol / Retinal มันเสื่อมค่อนข้างง่ายถึงจะเป็น Retinol ก็ตาม ยิ่งผลิตมานานโอกาสเสื่อมยิ่งเยอะ หลายๆแบรนมีส่วนผสมอื่นเพื่อมาชดเชยบางทีที่มันดีดีจากสารอื่นๆที่ใส่มาเพิ่มแต่ไม่ได้เห็นเรื่องที่ควรจะคาดหวังได้จาก Retinol   จากงานวิจัยเสื่อมมากถึง 80% !! WHAT ?? จะซื้อวิญญาณ Retinol มาใช้รึ ??

ดังนั้นการจะใช้ Retinal / Retinol ควรเลือกแบรนที่น่าเชื่อถือ มีงานวิจัย รวมถึงมีการทดสอบความเสถียรของ Retinoids 

ถ้าจะซื้อใช้แค่สักแต่ว่าเขียน retinoid บางทีอาจจะไม่ได้ประโยชน์เพราะมันเสือมไปหมดแล้วก็ได้แต่อาจจะได้สารอื่นๆที่เค้าใส่มาแทนนั้นเอง

ในส่วนหมอต่างเพิ่งมีการตีพิมพ์งานวิจัยเดือนที่แล้วว่างก็อ่านดูก็สรปุประมาณว่า ลดริ้วรอยได้แบบมีนัยสำคัญประมาณนั้น –>  https://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/jocd.13993 

สิ่งที่มาดามชอบนอกจากผลลัพธ์จากทดสอบที่ออกมาดีกว่าที่คิดไว้แล้ว น่าจะเป็นแบรนเดียวที่พูดถึงการเสื่อมของ Retinal และมีการทดสอบว่าที่ 3 เดือนมี Retinaldehyde เหลืออยู่มากกว่า 95%  ค่อนข้างโปรงใสชัดเจนต่อผู้บริโภคมาก ตรงนี้บอกเลย ว่ามาดามชอบ มันชัดเจนและกล้าที่จะแนะนำ 

ใครอยากจะอ่านรายละเอียด  รีวิวเต็มรายละเอียดส่วนผสมต่างๆรีวิว ละเอียดไว้แล้วที่นี้ –> https://web.facebook.com/madamgreanjeejee/posts/4315898471758259 

การใช้ Retinaldehyde / Retinol คือการใช้ระยะยาว ต้องใช้ต่อเนื่อง 1 ปีลองถ่า่ยรูปเก็บไว้มาดามเชื่อเห็นความแตกต่างที่ดีกว่าแน่ๆๆ 

นางปรับ packaging ใหม่นะจากเดิมชื่อ Vita-A Cream(รุนที่มาดามรีวิว) –> Vitalift A  ส่วนผสมเหมือนเดิมทุกอย่างแต่เค้าใช้ packaging สูญญากาศเพื่อเพิ่มความเสถียรของสารข้างในนั้นเอง

คำแนะนำสำหรับมาดามถ้าจะใช้ retinoids (ไม่ได้อิงตามแบรนด์นะ)

ถ้าเน้นป้องกันใช้ 0.05% ยาวๆไปเลย
ถ้ามีปัญหาแล้วค่อยปรับความแรงขึ้นจาก 0.05 –> 0.1% –> 0.12%  ไม่รับบทนางใจร้อนเดียวกลายเป็นนางน่าแหกเอานะ

สำหรับคนที่สนใจ Dr.DIfferent หาซื้อได้ที่ตัวแทน –>  https://shopee.co.th/dr.differentthailand

ค่าความชุมชื้นหลังใช้ที่ 2 เดือนค่าความชุ่มชื้นลดลงนิดหน่อยแต่ยังถือว่าสูงอยู่เพราะผิวที่ชุ่มชื้นเพียงพอค่าความชุ่มชื้น > 40  แต่ หมอต่างที่ 2 เดือนค่าความชุ่มชื้นยังอยู่ที่ 87 ถือว่าค่อนข้างโอเค

การเสียน้ำใต้ผิว

จากเดิมที่ 1 เดือนค่าการเสียน้ำใต้ผิวเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ (20.5) แต่หลังจากใช้ครบ 2 เดือนพบว่าค่าการเสียน้ำลดลงมาถึง 11.18 ถือว่าทำได้ดี สามารถกดลงมาต่ำกว่า 15 ได้

แม้จะกดลงมาได้ค่อนข้างดีแต่ไม่มีข้อมูลในการสร้าง LBs ได้ดังนั้นยังไงมาดามยังแนะนำให้เสริมชั้นผิว mist หรือ น้ำตบ หรือ เซรั่ม หน่อยละกันจ้าเพื่อความ strong ของผิวขั้นสูงสุด

แปลผล
TEWL <  15 คือว่าสุขภาพผิวดี
TEWL 15-25 คือว่าสุขภาพผิวปกติ
> 25 คือผิวเริ่มมีปัญหา

ความยืดหยุ่นของผิว 
พบว่าหลังใช้ที่ 1 เดือนความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นจาก 66.5 –> 77 คิดเป็น 15%  

ที่ 2 เดือนพบว่าเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยจาก  66.5 –> 77 –> 79  คิดเป็น % เมื่อเทียบจากก่อนใช้ดีขึ้น 15% ที่ 1 เดือน และดีขึ้นที่ 18% ที่ 2 เดือน  

ค่าความยืดหยุ่นปกติไม่ได้ขึ้นง่ายนะ มาดามว่าอันนี้โอเคดูเหมือนตัวเลขจะขึ้นไม่เยอะมาก แต่จริงๆเยอะเมื่อเทียบกับแบรนอื่นๆ นะ

เม็ดสีพบว่าดีขึ้นนิดหน่อย ไม่ได้เด่นมากนะ

ตอนเดือนแรกจะเห็นว่าค่าผิวแดง (erythema) ขึ้นมาเยอะมากจาก 419 –> 480 ที่ 1 เดือน(ระคายเคืองจากเริ่มใช้)เลยแดงขึ้น หลังจากนั้นที่ 2 เดือนผิวปรับได้พบว่าค่ารอยแดงลงมาคงเดิม คือ 420 เท่ากับก่อนใช้

ปริมาณน้ำมันที่ผิวหลังล้างหน้า 1 ชั่วโมง
พบว่า ที่ 2 เดือนดีขึ้นมันลดลงจากเดือนแรกที่ใช้

Texture ผิวมมาดามเลือกตรงที่กร้านๆหยาบๆ พบว่าที่ 2 เดือนเทียบกับก่อนใช้ค่อนข้างดีเลย อันนี้ผ่านมากกกก

ค่าการผลัดผิวที่ 2 เดือนดีขึ้นจากก่อนใช้ก็จริงแต่พอๆกับ เดือนแรก ค่า DI เท่ากันเดะๆๆ ดังนั้น อันนี้บอกเราว่ามันผลัดผิวได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่ได้ดีเท่า AHA / PHA นะ