รีวิว Scaling Toner By Game Ran MadamGrean

January 1,2021

Dr.Different Scaling Toner ผลัดผิวที่ปลอบประโลมผิวเพื่อสุขภาพผิวที่ดีโดยไม่ระคายเคือง

มาถึงตัวที่เป็นโทนเนอร์ผลัดผิวสำหรับผิวระคายเคืองง่าย เพราะตัวนี้ใช้ 10% PHA ในการผลัดผิวตัวนี้จะโมเลกุลใหญ่กว่าพวก AHA ทำให้การระคายเคืองน้อยกว่า ยิ่งกว่านั้นตัว PHA ยังมีจุดเด่นที่ดีกว่า AHA ก็คือเรื่องที่ PHA มีฤทธิ์ antioxidant และทำหน้าที่เป็น humectant เติมน้ำให้ผิวได้ดีกว่ากลุ่ม AHA และยังช่วยลดระคายเคืองกลุ่มยาหรือสารบางตัวอาทิ Benzac อีกด้วย

ทำไม PHA ถึงบอกไม่ไวต่อแสง ??

1.ตัว Gluconolactone เองทำหน้าที่เป็น antioxidant (Bernstein et al; Edison et al)

2.งานวิจัยพบว่าการทา PHA ไม่พบว่าทำให้เซลล์ไหม้หลังจากฉายด้วย UVB เมื่อเทียบกับ AHA (Bernstein et al)
นอกจากงานวิจัยในเรื่อง antiaging (ลด UV induced activation of the elastin promoter gene ได้ถึง 50%, Eric et al.,2004) แล้ว PHA ยังสามารถช่วยลดการเสียน้ำใต้ผิวได้ด้วย

การที่มาดามบอกว่ามันเหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายเพราะว่ามันมีการทดสอบกับคนกลุ่มที่ผิวระคายเคือง อาทิ rosacea, ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง และ ยังพบว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่ใช้ร่วมกับสารอื่นๆที่เสี่ยงกับการระคายเคือง อาทิ Retinoids, BHA รวมถึง Benzac [Grimes et al.,2004; Bernstein et al,2001; Reizer et al.,2001; Draelos et al., 2006;Green et al.,2009]

ผ่านในเรื่อง PHA ที่เน้นผลัดผิว antioxidant เติมน้ำให้ผิวแล้ว ยังนี้ยังมีสารเติมน้ำให้ผิวอื่นๆ อาทิGlycerin และมี amino acid อย่าง arginine ที่คาดหวังผลได้ นอกจากนี้ส่วนผสมอื่นๆใส่มาน้อยเป็น marketing claim มากกว่า

อีกอันที่จะพูดถึงและพอคาดหวังผลได้ก็คือ1% beta glucan ในรูป solution เลยขอพูดถึงหน่อยตัวนี้เอง งานวิจัยสำหรับ Beta-glucan สามารถช่วยการสมานแผลและช่วยปกป้องผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดดโดยทำหน้าที่รักษาระดับของ glutathione ใต้ชั้นผิว และนอกจากนี้ยังทำหน้าที่ soothing ให้กับผิวก็ไม่แปลกถ้าผลลัพธ์ตัวนี้ทำให้ผิวแดงลดลงนิดหน่อย และตัวนี้ยัง [Graf J.,2005;Majtan et al.,2018]

ผลจะได้ยังไงมาดูกัน

Subject: อายุ 35 ปี ผิวผสม
Regimen: AM: Sunscreen PM: Scaling toner
Washing phase: 1 อาทิตย์ (ช่วงที่หยุด skincare ตัวอื่นๆก่อนจะทดสอบ)
Baseline: ผิวเดิมก่อนจะเริ่มใช้ Scaling toner คือค่อนข้างดี ผิวชุ่มชื้น ยืเดหยุ่นจัดว่าดีเลย ลองมาดูว่า มาใช้ Scaling toner เดียวๆ จะรอดหรือพัง

อ่านรายละเอียดอ่านได้จากรูปแต่ละอันเลยนะมาดามใส่ข้อมูลไปละ

แต่จากการทดสอบ ช่วยให้ผิวใส ไม่ได้ไกลไปเลยจากตัวนี้ เพราะผลัดผิวได้ให้ความชุ่มชื้นใต้ผิว(ไม่ใช่จากความมันบนชั้นผิว) แถมปริมาณเยอะมากกกกก นี้บอกเลย ทาทั้งหน้า คอ ตัวช่วยลดเม็ดสี ผลัดผิวหน้า ตัวใสได้เลย

สรุป
1)ผลัดผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ทำให้แดงระคายเคืองเพิ่ม เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ใช้ยาสิว
2)เติมน้ำความชุ่มชื้นให้ผิว หลังทาผิวจะสว่างฉ่ำเพราะจากที่ผิวชุ่มชื้น
3)ลดความหยาบกร้านของผิว

คนที่อายุ > 28 ที่ต้องผลัดผิวและมีผิวไวต่อแสง หรือ ระคายเคืองง่าย หรือ คันง่ายเวลาโดนพวกกรด แนะนำให้ใช้ตัว PHA แทนได้เลย

คนที่อยากผลัดผิว และใช้พวกสารที่ระคายเคืองแรงๆ อาทิ ยาสิว หรือ BHA / LHA ก็เสริมได้(แต่ควรเสริมตามความจำเป็น)

ความชุ่มชื้น

พบว่าความชุ่มชื้นขึ้นจากเดิม 73.90 ขึ้นมา 88.12 [ ค่าที่มากกว่า 40 คือผิวชุ่มชื้นเพียงพอ ] คิดเป็น 19% สำหรับ Toner เดียวๆๆ คือโอเคเลย แต่อย่าลืมนะ เคสนี้คือผิวผสมดังนั้นจะยังมันช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้อยู่ ดังนั้นผิวแห้งแนะนำต้องทา moisturizer ร่วมด้วยเสมอ คนผิวมันระวังจะเหนอะนะเพราะ 88 ถือว่าฉ่ำพอสมควรเลย แต่ถ้านอนห้องแอร์ก็โอเค หรือ อาจจะทาปริมาณน้อยลงก็ได้ แต่ผิวแห้ง ผิวผสม อันนี้คือชุ่มชื้นได้โอเคมากเลย แต่ยังไงผิวก็ควรปิดด้วยครีมอีกทีก็ ซีลกักเก็บความชุ่มชื้นต่อไป

ลดการเสียน้ำใต้ผิว (TEWL)

ในแง่ลดการเสียน้ำใต้ผิว เคสนี้อยู่ที่ 19 (ผิวปกติ) หลังใช้ Scaling toner เดียวๆ พบว่าค่าขึ้นมา 21.49 คิดเป็น 13% ผลที่ได้ขัดกับงานวิจัยก่อนหน้าแต่ในงานวิจัยก่อนหน้าไม่ทราบว่าค่าพื้นฐานของ อาสาสมัครอยู่ระดับไหน อยู่ในช่วงปกติเหมือนกัน หรือช่วงที่ผิวแย่ดังนั้นเลยเทียบกันยาก แต่จากการทดสอบนี้พบว่า ยังไงก็ควรเสริมชั้นผิวด้วยเสมอ เพราะถ้าจะให้ดีควรมีค่า TEWL < 15 เอาจริงๆก็ไม่ได้คาดหวังว่านางจะมาเสริมชั้นผิวอะไรอยู่แล้ว ควรไปเน้นตัวเฉพาะเลยดีกว่า

เม็ดสี รอยแดง และโทนสีผิว

รอยดำบางจุดดูจางลงนิดหน่อยคิดเป็น 6.3% สำหรับรอยแดงพบว่าใช้ PHA ตัวนี้ไม่ได้ระคายเคืองผิวแดงขึ้นเลยก็สอดคล้องกับหลายๆงานวิจัย พบว่าค่าผิวแดงลดลงจาก 440 –> 382 หรือลดลง 13% อันนี้ให้ผ่าน ค่านี้ลดลงบอกอะไร 1)มันไม่ได้ทำให้ระคายเคืองเพิ่ม 2)มีฤทธ์ลดระคายเคืองจากตัวนี้ในตำหรับอาทิ beta-glucan

สำหรับโทนสีผิวไม่พบว่าผิวขาวหรือสว่างอะไรขึ้นจากเดิม พอๆเดิม บางคนที่บอกใช้แล้วผิว สว่างขึ้นน่าจะมาจากผิวที่ฉ่ำน้ำใต้ผิวมากกว่าโทนสีผิวจริงๆนะ

น้ำมันบนผิว

อันนี้ผลก็ไม่แตกต่างกันไม่ได้ช่วยอะไรตรงนี้ ไม่ได้ทำให้ผิวมันขึ้น อันนี้เป็นการบอกให้เราทราบว่าความชุ่มชื้นที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มาจากน้ำมันแต่มากใต้ผิวจริงๆ

ความยืดหยุ่นของผิว

ในแง่ความยืดหยุ่นของผิวจะพบว่าเดิม 81 ลงมา 76 ลงมานิดหน่อย เคสนี้เดิมความยืดหยุ่นค่อนข้างดี แม้จะไม่ได้ประคองให้เท่าเดิมแต่ก็สามารถยื้อให้ต่ำกว่าเดิมมาไม่มาก ไม่ได้ทดสอบระยะยาวกว่านี้เลยไม่รู้ว่าจะไปตกที่ต่ำสุดเท่าไหร่ ดังนั้นจากผลนี้ แนะนำให้ใช้พวก Retinoids / Ascorbic acid ร่วมด้วยในแง่เสริม elasticity

ในแง่ texture ของผิว

จากรูปพบว่าผิวแห้งกร้านลดลง ความหยาบผิวลดลง ความเรียบของผิวคงๆเดิม อันนี้ก็แนะนำว่าควรต้องใช้ พวก Retinal /Retinol เพื่อเสริมในเรื่องนี้ให้ดียิ่งๆขึ้น

การหลุดลอกของชั้นขี้ไคล

อันนี้เป็นการยืนยันว่า PHA สามารถช่วยให้การผลัดผิวได้จริงๆ และในบริเวณที่หนาๆ ก็พบว่าดีขึ้นถึง 81% อันนี้ก็บอกเลยว่าไม่ได้แพ้ AHA เลยที่ 1 เดือน แถมยังได้ผิวชุ่มชื้น antioxidant อีกถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี

มาถึงบทสรุป

โทนเนอร์ตัวนี้ที่ทำได้เลยแบบไม่แพ้ใคร ก็คือ ให้ความชุ่มชื้น ผลัดผิว และ ลดปลอบประโลมผิว(จากค่ารอยแดงที่ลดลง) คำแนะนำในการเสริม กรณีที่ใช้ toner ตัวนี้ ควรเสริมกลุ่ม MLE / MVE / MES (113 ถ้าผิวมัน) เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเสริมชั้นผิวให้ดีมากขึ้น ในแง่ antiaging ริ้วรอย แนะนำเสริม retinal / retinol combination แนะนำ
Scaling toner + Retinal/Retinol = จะได้ผลัดผิวครบทุกมิติ และ ช่วย texture + ริ้วรอย ได้ครบด้วย
Scaling toner + 113 moisturizer = สำหรับผิวมันเป็นสิวอยากเสริมชั้นผิวและผิวระคายเคืองง่ายที่ผลัดผิวด้วย HAA ปกติไม่ได้